เคล็ดลับการดูแลสุขภาพพื้นฐาน

เคล็ดลับการดูแลสุขภาพพื้นฐาน ฉันคิดว่าวิถีชีวิตของเราทุกคนในอดีตเปลี่ยนไปและไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป เราได้เรียนรู้สิ่งใหม่: ให้ความสำคัญกับสุขอนามัยอย่างจริงจังมากขึ้น เราให้ความสำคัญกับสุขภาพของเราเพื่อสร้างกำแพงป้องกันที่ปกป้องร่างกายจากโรคภัยต่างๆ และแม้ว่าสถานการณ์ปัจจุบันจะดีขึ้นบ้างแล้ว แต่การรักษาสุขภาพที่ดียังคงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับเราทุกคน ดังนั้นเนสท์เล่จึงอยากให้ทุกคนดูแลสุขภาพของตนเองอย่างต่อเนื่อง ปรับมุมมองและสร้างนิสัยที่ดีต่อสุขภาพจนกลายเป็นนิสัย 3A. รวมเคล็ดลับด้านสุขภาพที่ใครๆ ก็สามารถติดตามได้อย่างง่ายดายผ่านการรับประทานอาหาร การออกกำลังกาย และอารมณ์

เคล็ดลับการจัดการสุขภาพตามหลัก 3 ประการ 1.อาหารที่มีประโยชน์ ปฏิบัติตามหลักโภชนาการและรับประทานอาหารให้ครบห้าหมู่ เราภาคภูมิใจในความสะอาดของอาหารที่ปรุงสดใหม่

สูตรการทำอาหารเพื่อสุขภาพ 2:1:1 ให้พลังงานในปริมาณที่เหมาะสม สารอาหารครบถ้วนหมายความว่าในจานเดียวกลุ่มผักประมาณครึ่งจานหรือประมาณ 2 ทัพพี กลุ่มข้าวหรือแป้งประมาณ 1/4 ของจานหรือประมาณ 1 ทัพพี และกลุ่มเนื้อสัตว์อยู่ในสัดส่วนต่อมื้อ ปริมาณประมาณ 1/4 หรือ 1 ทัพพี
เพื่อสุขภาพที่ดีในระยะยาว ให้ลดอาหารที่มีรสหวาน มัน และเค็ม การบริโภคน้ำตาลในปริมาณที่มากเกินไปเป็นสาเหตุหนึ่งของปัญหาสุขภาพมากมาย เลือกสิ่งที่หวานกว่านี้เล็กน้อยหรือเติมน้ำตาลให้น้อยลงบ่อยขึ้น หรือมองหาผลิตภัณฑ์ที่มีสัญลักษณ์ Healthy Choice ซึ่งจะทำให้ได้ปริมาณน้ำตาลที่เหมาะสม ผ่านมาตรฐานทางโภชนาการทำอาหารทานเอง เพิ่มความมั่นใจว่าอาหารทุกมื้อของคุณถูกสุขลักษณะ เพิ่มคุณประโยชน์สูงสุด เน้นวิธีการปรุงอาหาร เช่น ต้ม ลวก นึ่ง และย่าง แทนการทอดแบบน้ำมันเข้มข้น ปรุงรสด้วยซีอิ๊วหมักธรรมชาติ เพื่ออาหารที่อร่อย อร่อย และปลอดภัย

ผัก ผลไม้ เครื่องดื่มธัญพืช ฯลฯ ช่วยเพิ่มใยอาหารเพื่อช่วยกำจัดของเสียออกจากร่างกาย และธัญพืชไม่ขัดสีหรือธัญพืชไม่ขัดสีมีเส้นใยอาหารที่ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล และระดับน้ำตาลในเลือดช่วยดูดซับสารพิษและทำให้การเคลื่อนไหวของลำไส้สั้นลง จึงช่วยลดโอกาสการเจ็บป่วยได้ การเสริมแคลเซียม ชะลอความเสื่อมของโครงสร้างร่างกาย ควบคู่ไปกับผลิตภัณฑ์นมที่อุดมด้วยแคลเซียม และเครื่องดื่มช็อกโกแลตมอลต์ เลือกนมที่มีจุลินทรีย์ที่เป็นประโยชน์ นี่เป็นอีกหนึ่งความลับที่ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย

ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เคล็ดลับการดูแลสุขภาพง่ายๆ แต่ต้องมีวินัย ออกกำลังกายสม่ำเสมอ เชื่อกันว่าจะสร้างเกราะป้องกันโรคต่างๆ ได้ และตามคำแนะนำควรออกกำลังกายอย่างน้อยวันละ 30 นาที สัปดาห์ละ 3 ถึง 5 วัน คุณควรออกกำลังกายแบบแอโรบิกร่วมกัน เช่น เดินเร็ว ปั่นจักรยาน ว่ายน้ำ วิ่ง และเต้นแอโรบิก เพื่อช่วยเผาผลาญพลังงานและไขมันและช่วยควบคุมน้ำหนักของคุณ ใช้ร่วมกับการฝึกยกน้ำหนัก ยกดัมเบล ขวดน้ำ ราวแขวน ไม้กระดาน ฯลฯ เพื่อเสริมสร้างมวลกล้ามเนื้อ นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มการเผาผลาญของคุณ สิ่งที่ควรคำนึงถึงขณะออกกำลังกายคือการใส่ใจกับการดื่มน้ำสะอาดก่อน ระหว่าง และหลังออกกำลังกาย เพียงพอที่จะครอบคลุมปริมาณของเหลวที่ควรสูญเสียไป เพื่อรักษาสมดุลของน้ำในร่างกายและความสดชื่น ส่งผลให้ระบบและอวัยวะต่างๆ ทำงานได้ตามปกติ

บริหารร่างกายในช่วงเช้า เคล็ดลับการดูแลสุขภาพพื้นฐาน

เคล็ดลับการดูแลสุขภาพพื้นฐาน  เริ่มยืดกล้ามเนื้อเมื่อตื่นนอนตอนเช้า การยืดกล้ามเนื้อถือเป็นกิจวัตรประจำวันที่เป็นการเสริมสุขภาพร่างกายของคุณ เป็นการออกกำลังกายทั่วร่างกายง่ายๆ ที่เกี่ยวข้องกับการหายใจช้าๆ และหายใจออก ผสมผสานการยืดกล้ามเนื้อและการผ่อนคลายในทุกท่า หากทำอย่างถูกต้องสม่ำเสมอก็จะมีความอุ่นใจ

การทำงานอาจทำให้กระดูกสันหลังและกล้ามเนื้องอและบิดตัวได้ ปรับเข้าสู่สภาวะที่สมดุลและผ่อนคลาย สมองและอวัยวะ รับออกซิเจนมากขึ้น หมุนเวียนเลือดไปหล่อเลี้ยงอวัยวะต่างๆ อย่างมีประสิทธิภาพ

กำจัดของเสียออกจากเนื้อเยื่อทั่วร่างกายได้อย่างหมดจด ทำให้อารมณ์สดชื่น ทำให้รู้สึกเบาสบาย ผิวพรรณสดใส ทำให้หัวใจสดใส และช่วยป้องกันโรคต่างๆ เมื่อฉันตื่นนอนอาจยืดเส้นยืดสายหนึ่งครั้งแล้วจึงเล่นโยคะประมาณ 15 นาที เพียงอย่างเดียวก็ถือเป็นการเริ่มต้นงานที่ดี เราแนะนำให้ออกกำลังกายหนักๆ เช่น การไปยิมหรือฟิตเนสเซ็นเตอร์ ขยับร่างกายเป็นเวลา 30 นาทีหรือหนึ่งชั่วโมงเพื่อออกกำลังเรียกเหงื่อ อย่างไรก็ตาม หากคุณต้องการเดินทางไปยังสถานที่อื่น พื้นที่มีจำนวนจำกัด และไม่มีห้องออกกำลังกายและศูนย์ออกกำลังกายให้บริการ คุณควรออกกำลังกายแบบบอดี้เวทโดยยกดัมเบลล์ให้อยู่ในตำแหน่งแทน ออกกำลังกายที่ไม่ต้องใช้พื้นที่มากนัก คุณสามารถขยับร่างกายได้แม้ในพื้นที่จำกัด

การดูแลสุขภาพจิต นอกจากสุขภาพกายแล้ว ดูแลสุขภาพจิตด้วย แนะนำให้ฝึกสมาธิครับ มีสติทุกขณะ ฝึกฟังให้มากเพื่อสร้างความเข้าใจอย่างมีสติ เคล็ดลับคือการนำหลักพุทธศาสนามาใช้ เราสามารถคิดและวิเคราะห์สิ่งต่าง ๆ มากมาย รู้จักปล่อยวางอย่างละเอียดอ่อนและมีหลักการ

นอกจากนี้ดูแลสุขภาพจิตของตัวเองให้ดี เราต้องดูแลสุขภาพจิตของคนรอบข้างด้วย สำหรับผู้ที่อยู่ห่างไกลหรือไม่ค่อยได้อยู่ร่วมกัน พวกเขาจำเป็นต้องสื่อสารกันอย่างสม่ำเสมอ การแบ่งปันเรื่องราวดีๆ ด้วยคำพูดดีๆ คุณสามารถสร้างอารมณ์เชิงบวกได้มากขึ้นด้วยการเล่าเรื่องดีๆ ให้กันและกัน

การดูแลด้านอาหาร เน้นการกินผักและผลไม้เยอะๆ ช่วยให้นอนหลับสบายและส่งเสริมการเคลื่อนไหวของลำไส้ให้เป็นปกติ คุณยังสามารถรับประทานอาหารเสริมวิตามิน เช่น วิตามินซี วิตามินบี และวิตามินรวมที่ขาดสารอาหารต่างๆ

เพียงเท่านี้ก็จะทำให้คุณมีสุขภาพที่ดีได้ไม่ว่าคุณจะทำงานหนักแค่ไหนก็ตาม อย่างไรก็ตามคุณต้องดำเนินการในลักษณะที่เหมาะสม อย่าลืมพักผ่อนให้เพียงพอ โปรดดูแลสุขภาพของคุณ ควบคุมการบริโภคอาหาร บริหารจัดการเวลาทำงานอย่างเหมาะสม

ดูแลตนเองอย่างไรให้สุขภาพดีทั้งร่างกายและจิตใจ

สุขภาพกาย หมายถึง สภาพของร่างกายที่มีความแข็งแรง สมบูรณ์ ระบบต่าง ๆ ของร่างกายสามารถทำงานได้อย่างปกติและมีประสิทธิภาพ ต้านทานโรคได้ดี ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บหรือความทุพพลภาพ

สุขภาพจิต หมายถึง สภาวะทางจิตใจมีความสดชื่น แจ่มใส สามารถปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงของสังคมและสิ่งแวดล้อมต่าง ๆ ได้ดี ตลอดจนสามารถควบคุมอารมณ์ให้มั่นคงเป็นปกติ ปราศจากความขัดแย้งหรือความสับสนภายในจิตใจ

การมีสุขภาพร่างกายและสุขภาพจิตใจที่ดีมีความสัมพันธ์กันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้อันจะนำมาซึ่งความสุขในชีวิตที่ทุกคนปรารถนา เพราะการมีร่างกายที่สมบูรณ์แข็งแรงย่อมส่งผลให้จิตใจสดชื่น เบิกบาน ในทางตรงข้าม หากร่างกายที่ไม่แข็งแรงก็ย่อมส่งผลให้จิตใจห่อเหี่ยว มีแต่ความกังวล และนี่คือวิธีปฏิบัติง่าย ๆ ที่จะนำมาซึ่งสุขภาพดีทั้งร่างกายและจิตใจ

  1. เลือกรับประทานอาหารอย่างถูกต้องตามหลักโภชนาการ

อาหารที่มีประโยชน์เป็นปัจจัยพื้นฐานที่จะนำไปสู่การมีสุขภาพร่างกายที่ดี การรับประทานอาหารที่ปรุงสุกใหม่ สด สะอาดให้ครบ 5 หมู่ในปริมาณที่เหมาะสมและเพียงพอต่อความต้องการของร่างกายจะช่วยให้มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงและห่างไกลจากโรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ

  1. ดื่มน้ำสะอาดอย่างน้อย 8–10 แก้ว

อย่างที่ทราบกันดีว่าร่างกายมนุษย์มีน้ำเป็นส่วนประกอบถึงร้อยละ 70 การดื่มน้ำสะอาดอย่างเพียงพอนั้นมีประโยชน์ต่อร่างกายอย่างมาก เนื่องจากน้ำเป็นตัวกลางในการเกิดปฏิกิริยาเคมีทุกชนิดตั้งแต่กระบวนการการย่อยอาหาร กระบวนการดูดซึมอาหาร และกระบวนการขับถ่ายของเสียออกจากร่างกาย หากขาดน้ำ ร่างกายอาจทำงานผิดปกติได้

  1. หมั่นออกกำลังกายเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ

การออกกำลังกายมีส่วนช่วยให้ร่างกายแข็งแรงขึ้น เพราะทำให้หัวใจ กล้ามเนื้อ ปอดทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยให้การไหลเวียนของโลหิตและระบบเผาผลาญทำงานได้ดีขึ้น อีกทั้งยังช่วยผ่อนคลายความเครียดจากการหลั่งสารเอนดอร์ฟิน (Endorphins) หรือสารแห่งความสุขเคล็ดลับการดูแลสุขภาพพื้นฐาน

บทความที่เกี่ยวข้อง